สวัสดีครับ หลังจากที่ทางทีมงาน StepGeekTV ได้เคยนำเสนอ Infinix Smart 2 สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีคุณสมบัติสำหรับใช้งานที่ครบครัน และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Go Edition กันไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งล่าสุดทาง Infinix ได้วางจำหน่าย Infinix Smart 2 HD ที่เป็นรุ่นอัปเกรดในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลใหญ่ขึ้น, แบตเตอรี่มีความจุเพิ่มขึ้น และชิปเซ็ตมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
สำหรับ Infinix Smart 2 HD ก็มีจุดจุดขายที่น่าสนใจหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ Fullview Display ความละเอียดระดับ HD+ ขนาด 6 นิ้ว, ชิปเซ็ต MediaTek MT6580, แรมขนาด 1 GB, รอมขนาด 16 GB, ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1 (Go Edition), กล้องถ่ายภาพด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่, กล้องถ่ายภาพด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, แบตตอรี่ความจุ 3500 mAh และวางจำหน่ายในราคาเพียง 2,690 บาท
จากข้อมูลดังที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Infinix Smart 2 HD นั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่พอสมควร ซึ่งในวันนี้เราจะไปทดสอบสมาร์ทโฟนรุ่นนี้พร้อมกันว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานด้านใดได้บ้าง, สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีหรือไม่ และมีดีไซน์ตัวเครื่องเป็นอย่างไร ไปชมรีวิวพร้อมกันได้เลยครับ
คุณสมบัติตัวเครื่องแบบคร่าวๆ ของ Infinix Smart 2 HD

– หน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ LCD ความละเอียดระดับ HD+ ใหญ่เต็มตาขนาด 6 นิ้ว
– หน่วยความแรมขนาด 1 GB
– หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB
– ระบบปฏิบัติการ Android Oreo (Go Edition) เวอร์ชัน 8.1 โดย Android Go Edition
– กล้องถ่ายภาพด้านหน้าแบบ Low-Light Selfie ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
– รองรับ Google Lens
– แบตเตอรี่ขนาด 3500 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
– Infinix Smart 2 HD มีให้เลือกถึง 3 ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน และสีทอง
– ราคา 2,690 บาท
ดีไซน์ ตัวเครื่อง และการออกแบบ

สำหรับแพ็กเกจของ Infinix Smart 2 HD นั้นเป็นสีเขียว ซึ่งภายในแพ็กเกจก็มีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ใช้งานอย่างครบครัน


Infinix Smart 2 HD มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ FullView Display ความละเอียดระดับ 1440×720 พิกเซล กับอัตราส่วนแบบ 18:9 ขนาด 6.0 นิ้ว

ด้านบนของหน้าจอมีกล้องดิจิทัลแบบ Low-Light Selfie ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, มีระบบ Proximity Sensor และระบบ Ambient Light Sensor

ด้านล่างของหน้าจอมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างมีไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

ด้านขวาของเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง พร้อมทั้งสามารถล็อกหน้าจอได้ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านซ้ายของเครื่องไม่มีปังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านหลังของเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และลำโพงเสียงภายนอก

และเมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2, ช่องสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และแบตเตอรี่ที่ฝังติดกับเครื่องขนาด 3500 mAh
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์


Infinix Smart 2 HD มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android Oreo (Go Edition) เวอร์ชัน 8.1 โดย Android Go Edition ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานบนสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้นเป็นหลัก หรือสมาร์ทโฟนที่มีหน่วยความจำแรมขนาด 1 GB พร้อมทั้งมีการปรับแต่งแอปพลิเคชันให้ใช้พื้นที่หน่วยความจำน้อยลง นอกจากนี้ แอปพลิเคชันบน Google Play Store ก็เริ่มปรับเพื่อรองรับสมาร์ทโฟนที่มีระบบปฏิบัติการ Android Oreo (Go Edition) มากขึ้นอีกด้วย

มีหน่วยความจำแรมขนาด 1 GB กับหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB


ทางด้านการท่องเว็บไซต์ผ่าน Infinix Smart 2 HD ก็สามารถแสดงเนื้อหาได้อย่างครบถ้วน


มีบริการต่างๆ จากทาง Google ให้ใช้งาน เช่น Maps Go

รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด




สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และสามารถเปลี่ยนธีมได้


มีแอปพลิเคชันสำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์หน่วยความจำแรม, การเปิดโหมดประหยัดพลังงาน หรือการจำกัดปริมาณอินเทอร์เน็ต

ในเรื่องของระบบความปลอดภัยนั้น Infinix Smart 2 HD ก็จะมีระบบสแกนใบหน้ามาให้ใช้งาน ซึ่งจากการทดสอบก็สามารถปลดล็อกได้รวดเร็วทันใจ


นอกจากนี้ Infinix Smart 2 HD นั้นรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ 2 อย่างด้วยกัน ได้แก่ การแตะหน้าจอ 2 ครั้ง เพื่อปลุกการทำงานของเครื่อง กับการใช้ 3 นิ้วเลื่อนลงที่หน้าจอ เพื่อถ่ายภาพหน้าจอ


บน Infinix Smart 2 HD ยังมีแอปพลิเคชัน “ตู้แช่แข็ง” สำหรับปิดการทำงานของแอปพลิเคชันที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ซึ่งจะมีประโยชน์ตรงนี้แอปพลิเคเหล่านี้จะไม่มีการทำงาน หรือการเชื่อมต่อใด ทำให้ไม่มีการกินพลังงาน หรืออินเทอร์เน็ตนั่นเอง

อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่น่าสนใจ คือ fooView จะเป็นแอปพลิเคชันทำหน้ารวบรวมแอปพลิเคชัน หรือฟังก์ชันลัดเอาไว้ในที่เดียวกัน ช่วยให้เข้าถึงการใช้งานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น


สามารถชมภาพยนตร์ที่ชื่นชอบความละเอียดระดับ HD (720p) ได้


Infinix Smart 2 Pro ใช้ชิปเซ็ตชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6580 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, ชิปประมวลผลกราฟิก Mali-400, มีหน่วยความจำแรมขนาด 1 GB กับหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB

โดย Infinix Smart 2 HD นั้นมีคุณสมบัติตัวเครื่องในระดับเริ่มต้น จึงไม่เหมาะที่จะนำไปเล่นเกมที่มีการประมวลผลหนักๆ แต่เหมาะที่จะเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบ 2D หรือ 3D ที่มีกราฟิกไม่เยอะ และเน้นในเรื่องของการชมภาพยนตร์ในความคมชัดระดับ HD (720p) เสียมากกว่า

ผลทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน แอปพลิเคชัน Geekbench 4 จะได้ 422 คะแนน กับ 1061 คะแนน
กล้องถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอ


โดยกล้องถ่ายภาพด้านหลังจะสามารถเลือกโหมดถ่ายภาพได้ เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายวิดีโอ และสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลชได้


สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 7 ระดับ


สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)


กล้องถ่ายภาพด้านหลังจะสามารถเลือกโหมดถ่ายภาพได้ เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายวิดีโอ และสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลชได้


สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 7 ระดับ


สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)


สามารถเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์สำหรับช่วยถ่ายภาพได้ เช่น เปิดใช้งานตาราง 9 ช่อง, ตั้งเวลาเพื่อได้ถ่ายภาพ หรือปิดเสียงชัตเตอร์ได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกระดับความสว่างของไฟแฟลชแบบคู่ได้ 3 ระดับ (เฉพาะไฟแฟลชด้านหน้า), การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, เลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 8 ล้านพิกเซล และเปิดฟังก์ชันกระจกเงาสะท้อนได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล









ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล




สรุปผลการทดสอบของ Infinix Smart 2 HD

สำหรับ Infinix Smart 2 HD ก็นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีความโดดเด่นหลายอย่างเลยทีเดียว อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้จากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะเป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1 (Go Edition) แต่ก็มีแอปพลิคชันต่างๆ ออกมารองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน และด้วยความที่เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้หน่วยความจำแรมไม่เยอะ จึงช่วยให้การใช้งานต่างๆ นั้นไหลลื่น
ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพทาง Infinix ก็จัดมาให้ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง โดยจากการทดสอบก็พบว่าทั้งกล้องด้านหน้า และด้านหลัง นั้นสามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัด สมจริง อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 7 ระดับ บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
ทางด้านดีไซน์ก็ถือว่าออกแบบมาได้อย่างลงตัว ฝาหลังก็มีความโค้งมนเข้ารูปกับอุ้งมือ ช่วยให้จับ หรือถือใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังใช้เป็นพื้นผิวแบบด้าน จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือ
ทางด้านฟีเจอร์เด่นอย่างหน้าจอแสดงผลแบบ Fullview Display ที่มีความละเอียดระดับ HD+ ขนาด 6 นิ้ว, สแกนลายนิ้วมือ ก็สามารถใช้งานดี และถึงแม้ว่า Infinix Smart 2 HD จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6850 ความเร็วในการประมวลผล 1.3 GHz, หน่วยความจำแรมขนาด 1 GB กับหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB แต่ด้วยความที่ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.1 (Go Edition) ก็ช่วยให้ใช้งานต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ซึ่งสามารถเล่นเกมที่มีกราฟฟิกไม่เยอะได้อย่างสบายๆ

โดยสรุปแล้ว Infinix Smart 2 Pro นั้นเหมาะกับการใช้งานในเรื่องของ ฟังเพลง, ดูหนัง, เล่นเกม หรือเปิดเว็บไซต์ เสียมากกว่า ซึ่งจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็จะเห็นแล้วว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้ในระดับที่น่าพอใจ และคุ้มค่าคุ้มราคาค่าตัวที่ 2,690 บาทเป็นอย่างมาก โดยผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อ Infinix Smart 2 HD ได้ที่ Lazada, JD Central กับ Shopee อีกหนึ่งความพิเศษคือ หากลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Infinix รับทันทีประกันแบตเตอรี่นานถึง 1 ปี และรับประกันจอแตก เปลี่ยนฟรี 1 ครั้ง สงวนสิทธิ์เครื่องละ 1 ครั้งภายใน 1 ปี ไม่รวมความเสียหายที่เกิดกับชิ้นส่วนอื่นๆ หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.infinixmobility.com หรือ www.facebook.com/InfinixMobileThailand/ สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ